top of page

ประเพณี

        ถ้ามองย้อนกลับไปประมาณ 80 ปี หมู่เกาะฮาวายก็ยังเป็นดินแดนที่เกิดขึ้นใหม่จากภูเขาไฟที่อยู่ใต้ทะเลของมหาสมุทรแปซิฟิก

        ในขณะนั้นหมู่เกาะฮาวายก็ยังเป็นทรัพย์สมบัติของสหรัฐอเมริกา แต่สหรัฐฯ ก็ยังไม่ได้ประกาศให้ฮาวายเป็นอีกรัฐหนึ่งซึ่งมีการปกครองอย่างเคียงบ่าเคียงไหล่กันกับมลรัฐอื่นๆ ในด้านนิเวศวิทยาของพันธุ์ไม้ก็เช่นกัน เพราะเหตุที่ว่าฮาวายเป็นดินแดนเกิดใหม่ ดังนั้นบนหมู่เกาะแห่งนี้จึงยังไม่มีพันธุ์ไม้ที่น่าสนใจสำหรับคนท้องถิ่นที่จะนำมาใช้ประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจแม้แต่กล้วยไม้ ดินแดนแห่งนี้ก็มีพันธุ์กล้วยไม้ป่าดอกเล็กๆน้อยๆ คล้ายดอกหญ้าอยู่เพียงไม่กี่อย่าง

        ไม่เพียงเท่านั้น ถ้าจะมองที่ประชากรซึ่งเป็นธรรมชาติของฮาวาย บนพื้นฐานแห่งนี้มีพลเมืองที่เป็นชาวเกาะอย่างที่เรียกกันว่า “ชาวเกาะทะเลใต้” ซึ่งมีวัฒนธรรมประเพณีที่ไม่เก่ามากนัก นอกจากนั้นก็จะเป็นประชากรที่อพยพไปจากถิ่นอื่น อาทิเช่น ชาวตะวันตกที่อพยพไปจากผืนแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯเอง ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีชาวจีนและญี่ปุ่นที่อพยพไปตั้งรกรากอยู่บนหมู่เกาะฮาวายอีกด้วย

        มีประจักษ์พยานที่เป็นผลงานจากคนเหล่านี้โดยที่นำเอาพันธุ์ไม้ธรรมชาติในเขตร้อนของแหล่งอื่นไปทำประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจ เพราะที่นั่นมีสภาพฝนฟ้าอากาศเหมาะสมกับการเพาะปลูกพันธุ์ไม้เมืองร้อนเป็นอย่างมาก

        อนึ่งบนหมู่เกาะฮาวายที่ได้รับการปกครองโดยสหรัฐอเมริกายังมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นหลักสำคัญ โดยเฉพาะธรรมชาติของหมู่เกาะทะเลใต้นั้น ถ้าจะพูดถึงการท่องเที่ยวแล้ว ทางสหรัฐฯ ได้พยายามสร้างประเพณีนิยมโดยการนำเอาพันธุ์ไม้สวยๆงามๆมาปลูกและใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง

        ดังจะเห็นได้จากการที่ชาวฮาวายซึ่งมีประเพณีนิยมของชาวเกาะ การแสดงต่างๆนับตั้งแต่ประเพณีชาวเกาะที่มีการเต้นระบำแบบฮูลาฮูลาและมีการแต่งกายในชุดที่เรียกกันว่ามูมู่ ที่มีสีสันสดใสและมีภาพดอกไม้ชนิดต่างๆเป็นลวดลาย แม้กระทั่งการพัฒนาระบบการใช้ดอกไม้ที่เป็นประเพณีนิยม เช่น การเอาดอกไม้มาร้อยเป็นมาลัยคล้องคอทั้งเป็นการสวมใส่ร่างกายของชาวเกาะท้องถิ่น และนำเอามาลัยดอกไม้มาคล้องคอนักท่องเที่ยวจนกระทั่งเวลาจะขึ้นเครื่องบินกลับบ้าน ก็มีดอกไม้ร้อยมาลัยขายที่สนามบินและพัฒนาการใช้ประโยชน์โดยให้คนท้องถิ่นที่ไปส่งแขกเอามาลัยไปคล้องคอให้ด้วย ส่วนแขกที่ไปฮาวาย เวลาจะขึ้นเครื่องบินกลับบ้านก็ถึงกับถอดเอาพวงมาลัยดอกไม้ใส่ถุงพลาสติกขึ้นเครื่องติดตัวไปด้วยเพื่อเป็นของที่ระลึก

        ดอกไม้ที่ใช้กันในฮาวายนั้นก็เป็นประเภทที่เรียกกันว่า “พันธุ์ไม้เมืองร้อน” ที่สามารถปลูกรับลมทะเลให้เจริญงอกงามได้อย่างดี เช่น ดอกชบา สีสันต่างๆ ดอกกล้วยไม้ที่นิยมปลูกกันจนกระทั่งเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่

        นอกจากนั้นยังมีกล้วยไม้ชนิดต่างๆ ที่ปลูกและขยายพันธุ์อยู่บนเกาะแห่งนี้จำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวจนกระทั่งถือเป็นธรรมเนียมว่า “ถ้าไปฮาวายแล้วไม่มีกล้วยไม้ติดมือกลับบ้านก็เหมือนกับไม่ได้ไปฮาวาย”

        สิ่งที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดมันมีความยาวนานจนกระทั่งกลายเป็นจารีตประเพณีที่แพร่กระจายอยู่ในสังคมอย่างกว้างขวาง

        แม้แต่เมืองไทยเองซึ่งเป็นแหล่งที่มีพันธุ์กล้วยไม้ธรรมชาติอยู่ในป่าเขตร้อนหลายชนิด  ทั้งๆที่คนฮาวายสั่งซื้อพันธุ์กล้วยไม้ป่าไปจากเมืองไทย แต่แล้วเค้าก็สามารถนำเอากล้วยไม้ในดินแดนเขตร้อนของหลายประเทศเช่น ในภูมิภาคเอเชีย ภูมิภาคเขตร้อนของทวีปอเมริกาใต้ และพื้นที่ในแหล่งอื่นๆของโลกไปปลูกขยายพันธุ์และพัฒนาพันธุ์ใหม่ๆ ขึ้นมาจากการผสมอย่างกว้างขวาง แต่แล้วคนไทยก็ยังมีความรู้สึกที่คลั่งไคล้ไหลหลงกับกล้วยไม้สวยๆงามๆจากหมู่เกาะฮาวายกันอย่างกว้างขวาง

        กล้วยไม้พันธุ์ผสมดังกล่าวได้มีการพัฒนาระบบการผลิตไปถึงขั้นจดทะเบียนตั้งชื่อลูกผสม ดังจะเห็นจากรายชื่อกล้วยไม้พันธุ์ผสมที่จดทะเบียนแล้ว มีทั้งชื่อที่เป็นญี่ปุ่น เป็นจีน เป็นชื่อคนตะวันตกและเชื้อชาติอื่นๆ นอกจากนั้นยังมีกล้วยไม้ลูกผสมที่ถูกตั้งชื่อโดยใช้ชื่อสถานที่สำคัญๆ อาทิเช่น “มานัววัลเล่” ซึ่งเป็นหุบเขาสำคัญของนครโฮโนลูลู และเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยฮาวายด้วย

        เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเพราะสิ่งใดก็ตามที่เป็นวัฒนธรรมท้องถิ่น ถ้าปล่อยให้ต่างชาติเรียนรู้ให้ถึงรากฐาน ถ้าเป็นเมืองไทยก็อาจจะต้องเสียเมืองกรุงให้แก่ข้าศึกชนิดที่ตีกลับคืนได้ยาก

        ช่วงที่ฉันกำลังใฝ่ฝันจะพัฒนาวงการกล้วยไม้ไทย คัวเองก็มีอายุเพียงไม่เกิน ๓๐ ปี เงินทองก็ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันคงมีแต่เงินเดือนข้าราชการเล็กๆน้อยๆ “แต่ความใฝ่ฝันของฉันที่จะเอาชนะฮาวายในเรื่องกล้วยไม้ ดูแล้วอาจรู้สึกว่ามันเป็นของยิ่งใหญ่ นี่ก็เป็นจุดสำคัญอีกจุดหนึ่งซึ่งทำให้ฉันผู้มีนิสัยที่เพียรพยายามและมีวิริยะอุสาหะที่แน่วแน่”

        มันเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อที่ตัวฉันเอง เงินทองก็ไม่มี แถมยังทำงานในราชการเรื่องการค้นคว้าวิจัยพันธุ์ข้าว ส่วนกล้วยไม้เป็นเรื่องที่ทางราชการต่อต้านอย่างมากเพราะเห็นว่าเป็นของที่เศรษฐีมีเงินเอามาเล่นอวดความมั่งมี แถมยังใช้เป็นเครื่องมือดูถูกเด็กและคนยากจนว่า คนซึ่งมีชีวิตอยู่ในระดับต่ำคงไม่สามารถจะเอามาปลูกได้

        นี่แหละเธอที่รัก เธอคงจะเห็นแล้วซิว่าชีวิตฉันจากช่วงเวลาในขณะนั้น สิ่งแรกก็คือ งานหลวงก็ต้องทำให้ดีที่สุด แต่สิ่งที่มันแฝงอยู่ในอุดมการณ์ของฉัน ฉันใช้เวลาว่างเย็นๆค่ำๆทั้งในด้านทำงานวิจัย งานเผยแพร่ความรู้ ซึ่งตัวเล็กขนาดนั้นก็ยังทำรายการโทรทัศน์เผยแพร่ความรู้เรื่องกล้วยไม้ได้ทุกสัปดาห์และไม่มีรายได้จากงานนี้

        มันไม่เพียงเท่านั้น สิ่งที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดมันมีแรงกดดันที่มุ่งมาทำลายฉันอยู่ทุกขณะเพราะไปขัดผลประโยชน์ของคนที่มีอิทธิพลหลายกลุ่ม

bottom of page